เมื่อวันที่ 3 พ.ค.68 พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด ลงพื้นที่บ้านปลักปลา ม.5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ เบื้องต้นพบว่าคนร้ายใช้ปืนสงครามยิงใส่บ้านเรือนของชาวบ้าน ได้รับความเสียหาย 3 หลัง
หลังแรกคือบ้านของ นางเฉลิมศรี เรือนสังข์ (แม่ของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ) พบปลอกกระสุนปืนที่แคร่ไม่ไผ่หน้าบ้าน จำนวน 10 นัด โดยเจ้าตัวอยู่ในเหตุการณ์และรอดตายอย่างหวุดหวิด เล่าว่า มีคนร้าย 6 คน ขี่รถ จยย. 3 คัน เป็นพาหนะ
โดยคันแรกมาจอดที่หน้าบ้านตน ใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มเข้าไปในบ้าน ซึ่งตนนั่งอยู่ข้างๆ ลูกสาว ส่วนนายแดง รวมทั้งนายภาคีไนย และนายเชาว์ (สามี) นั่งอยู่อีกกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งดูทีวี ทำให้นายแดง และลูกสาว ถูกกระสุนปืนยิงเสียชีวิตที่ รพ. ส่วนนายภาคีไนย และสามี บาดเจ็บ ส่วนตนเองรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด
หลังที่สองอยู่ติดกัน บ้านของนายดำ (ผู้เสียชีวิตที่ถูกยิงตายหน้าบ้าน) พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม16 จำนวน 8 ปลอก คนร้ายได้มาจอดรถอยู่หน้าบ้านตอนนั้น นายดำ ได้วิ่งออกมา คนร้ายจึงใช้อาวุธปืน ยิงใส่ร่างหลายนัดเสียชีวิตคาที่
หลังที่สามใกล้ๆ กัน บ้านของนายจบ พบปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 9 ปลอก คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่บ้าน แต่โชคดีที่สมาชิกในครอบครัวไม่มีใครอยู่บ้าน เนื่องจากไปร่วมงานบุญนอกพื้นที่ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป
ด้าน พล.ท.ไพศาล กล่าวว่า ได้เน้นย้ำในเรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัย ในชุมชนต่าง ๆ โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดงดลา เพื่อให้ทำงานได้เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ เน้นย้ำในเรื่องการนำผู้นำท้องที่ และชรบ.มาร่วมรักษาความปลอดภัย และกำชับในเรื่องของมาตรการการเดินทาง หรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งของไทยพุทธและมุสลิม ที่อาจจะเป็นช่องว่างให้คนร้ายก่อเหตุได้
ต่อมา พล.ท.ไพศาล ไปที่วัดสิทธิสารประดิษฐ์ สถานที่จัดงานศพของผู้เสียชีวิต เพื่อพบปะเครือญาติพร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น และได้มอบเงินจำนวนหนึ่งช่วยเหลืองานศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ได้ปิดกั้นพื้นที่ และยกระดับมาตรการคุมเข้มป้องกันการก่อเหตุรุนแรง พร้อมขอความร่วมมือประชาชน ช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ บุคคลต้องสงสัย แจ้งได้ที่สายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โทร.1341 หรือ โทร.191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง