นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นพ.สสจ.ยะลา เปิดเผยว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นเด็กและเยาวชน อายุ 15-25 ปี ในการป้องกันโควิด-19 ช่วงการระบาด ก.พ.-เม.ย.64 ครอบคลุมพื้นที่ 13 เขตสุขภาพ พฤติกรรมที่ปฏิบัติกันน้อยคือ การเว้นระยะห่างทางสังคม ปฏิบัติทุกครั้ง เฉลี่ย 37% มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ครั้งที่ 1 51.9% ครั้งที่ 5 ลดลงเหลือเพียง 35% ซึ่งถือว่าน้อยมาก ทั้งนี้ เด็กและเยาวชนมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโควิด-19 เพราะมีการปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโรคและพฤติกรรมในการเสริมสร้างสุขภาพลดลง ประกอบกับ วัยรุ่นเป็นวัยที่รักอิสระและชอบอยู่กับกลุ่มเพื่อน จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่าย
นพ.สสจ.ยะลา ระบุด้วยว่า ธรรมชาติของวัยรุ่นชอบรวมกลุ่ม สอดคล้องกับผลการสำรวจที่มีการรักษาระยะห่างน้อยลงเรื่อยๆที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่มเด็กอายุน้อยกว่า 18 ปี ยังไม่ได้รับวัคซีน จึงขอฝากคำแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับวัยรุ่นเพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเรียนอย่างปลอดโรค โดยควรวางแผนทำกิจกรรมในช่วงที่ต้องหยุดเรียนเพื่อให้มีความสมดุล ทั้งกิจกรรมที่ตนเองถนัด และเรียนรู้เพิ่มเติม เช่น พัฒนาตนเองโดยการหาความรู้เพิ่มเติมผ่านระบบการเรียนออนไลน์ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นดนตรี อ่านหนังสือ ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส กรณีต้องออกนอกบ้าน ควรเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่มีผู้คนหนาแน่น ควรสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จำเป็น หยุดกิจกรรมทางสังคม (วันเกิด ปาร์ตี้ สังสรรค์) เปลี่ยนการนัดพบเพื่อนนอกบ้านมาคุยผ่านวิดีโอคอล เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ และมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม สวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่อออกจากบ้าน รักษาระยะห่าง หมั่นล้างมือบ่อยๆ รวมทั้งวิธีการป้องกันต่างๆ ที่ทำให้ตนเอง จะได้ไม่เป็นทั้ง “ผู้รับและผู้ให้” โรคที่สามารถแพร่ระบาดให้แก่คนในสังคม
—————————-