ความคืบหน้าระเบิด และยิงผู้นำศาสนา บนถนนสายบ้านควนลาแม-บ้านคลองช้าง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ล่าสุดเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 ราย เผยรู้ตัว 2 คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุแล้ว
จากเหตุกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดแล้วใช้อาวุธปืนสงครามกระหน่ำยิง นายรอมลี วาเงาะ อายุ 35 ปี เป็นโต๊ะบิหลั่นประจำมัสยิดควนลาแม และเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์ ที่โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เสียชีวิตภายในรถยนต์เก๋งส่วนตัว ขณะกำลังเดินทางกลับบ้านพัก เหตุเกิดบนถนนสายบ้านควนลาแม-บ้านคลองช้าง หมู่ 4 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้สั่งการให้พร้อมชุดตรวจพิสูจน์หลักฐาน ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้เข้าตรวจหาหลักฐานอีกครั้งบริเวณที่เกิดเหตุ โดยมีการปิดเส้นทางดังกล่าว ซึ่งตั้งแต่เมื่อคืน และเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถเก็บรวบรวมวัตถุพยานที่สำคัญได้จำนวนมาก โดยเฉพาะปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 26 ปลอก ปลอกกระสุนลูกซอง จำนวน 3 ปลอก นอกจากนี้ ยังพบชิ้นส่วนระเบิด และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหลักฐานทั้งหมดจะได้ส่งไปตรวจยังศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 จ.ยะลา เพื่อตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์หาความเชื่อมโยงของกลุ่มคนที่ร่วมก่อเหตุ คาดว่าน่าจะรู้ผลในอีก 2-3 วัน ว่าการก่อเหตุครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มใด
ขณะที่การติดตามไล่ล่าคนร้ายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่ ต.นาเกตุ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 จุด ส่วนศพของ นายรอมลี วาเงาะ ญาติได้ประกอบพิธีฝังศพตามหลักฐานศาสนาอิสลามแล้วเมื่อเช้าที่ผ่านมา ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว และบรรดาญาติๆ
พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงวันนี้ ทางฝ่ายความมั่นคงได้สนธิกำลังไล่ล่ากลุ่มคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้ใช้พื้นที่ป่าในการหลบหนี และมีการเข้าไปในหมู่บ้าน คาดว่าน่าจะมีบุคคลอื่นที่ช่วยนำพาหลบหนี ขณะนี้ได้ปิดพื้นที่แล้ว และเชื่อว่าคนร้ายน่าจะนำอาวุธปืนซุกซ่อนไว้ในป่าเพื่ออำพรางตัวหลบหนี ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ได้ทำการเชิญตัวบุคคลต้องสงสัยเป็นชาย 1 คน เข้ามายังศูนย์ซักถามในค่ายอิงคยุทธบริหาร เนื่องจากมีพยานระบุว่าอยู่ในที่เกิดเหตุในช่วงเกิดเหตุ เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติมีข้อมูลบางอย่าง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ยังต้องสอบสวนอีกครั้ง
ผบ.ฉก.ปัตตานี ยอมรับว่า การก่อเหตุครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียของผู้นำศาสนาในพื้นที่คนหนึ่งที่ต้องเสียชีวิตจากการกระทำของคนร้าย ที่หมายจะก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่รัฐรายหนึ่งที่เป็นเป้าหมาย แต่ยิงผิดตัว เนื่องจากผู้ตายใช้รถเก๋งที่มีลักษณะคล้ายกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นเป้าหมาย ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เชื่อว่าเป็นฝีมือของ นายสาการียา สะอิ และนายอับดุลรอแม ดอเลาะ ทั้งคู่เป็นบุคคลตามหมายจับคดีความมั่นคง ร่วมก่อเหตุหลายคดีเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และยังเป็นคู่อริกับเจ้าหน้าที่รัฐรายหนึ่งที่หวังจะสังหารเมื่อคืน แต่กลับยิงผิดตัว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รอผลตรวจพิสูจน์จากวัตถุพยานว่าตรงกับบุคคลทั้งคู่หรือไม่ ซึ่งคนร้ายทั้ง 2 คนนี้เจ้าหน้าที่จะต้องติดตามจับกุมตัวมาให้ได้ และขอฝากถึงญาติด้วยว่าให้ติดต่อทั้งคู่เข้ามามอบตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และหากญาติหรือใครให้ความช่วยเหลือ หรือให้ที่พักพิงจะถูกดำเนินคดีอย่างหนัก
———————-