บุกจับเครือข่ายค้ายาภาคอีสาน กระจายลงพื้นที่ภาคใต้ พบเปิดธุรกิจฟิตเนสบังหน้า

วันที่ 10 มี.ค.64 ชุดปฏิบัติการพิเศษสยบไพรี กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังเข้าตรวจค้น อาคารพาณิชย์เเห่งหนึ่ง ใน หมู่ 7 ตำบลทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเชิดชาย ผู้ต้องหาในคดีสมคบกันค้ายาเสพติดและร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครอง ตามหมายจับของศาลอาญา

จากการตรวจค้น พบตัวนายเชิดชาย  เเละ น.ส.ปวริศา ภรรยา อยู่ภายในบ้าน ตำรวจจึงแสดงหมายจับ ก่อนควบคุมตัวทั้ง 2 นำตรวจค้น พบเป็นอาคารพาณิชย์ 4 คูหา 3 ชั้น โดย 2 คูหา เปิดธุรกิจออกเเบบเเละผลิตป้ายโฆษณา อีก 2 คูหา เปิดเป็นฟิตเนส ตรวจค้นเบื้องต้นพบเอกสารจำนวนมาก ก่อนตำรวจยึดไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้ตรวจค้นภายในรถยนต์ ford ของผู้ต้องหาพบปืน 1 กระบอกซึ่งนายเชิดชายรับว่าเป็นของตนเอง ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่

จากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายเชิดชาย มีหน้าที่จัดหาทีมลำเลียงขนส่งยาเสพติดที่รับมาจากภาคอีสาน ให้ส่งไปยังภาคใต้ นอกจากจะเป็นผู้สั่งการแล้วนายเชิดชาย ถือว่าเป็นคนออกเเบบวิธีการซุกซ่อน รวมถึงออกเเบบช่องต่างๆ ของรถยนต์เพื่อใช้ในการซุกซ่อนยาเสพติดในการลำเลียงหลายๆ ครั้งอีกด้วย ขณะที่นายเชิดชาย ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดแต่อย่างใด

ปส.พบข้อมูล แก๊งค้ายา ลักลอบขนยาเสพติดเข้าทางอีสาน ปลายทาง จังหวัดชายแดนใต้ ยึดทรัพย์ 51 ล้านบาท

พลตำรวจตรีพรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า ตั้งเเต่ต้นปีนี้พบว่ายาเสพติดถูกลักลอบนำเข้ามาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

หรืออีสาน มากกว่าทุกปีกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนใหญ่พบเข้ามาทาง จ.นครพนม มุกดาหาร หนองคาย สกลนคร ผ่านเข้ามาพื้นที่ตอนในอย่างกรุงเทพ เเละปริมณฑล ก่อนนำส่งปลายทาง ไปยังจ.นราธิวาส

เมื่อตรวจสอบประวัตินายเชิดชาย พบเคยต้องโทษ เกี่ยวกับคดียาเสพติด 2-3 คดี เมื่อพ้นโทษก็กลับมาก่อเหตุซ้ำ โดยมีภรรยาและเครือญาติรับฟอกเงินและอำพรางทรัพย์สิน

ขณะนี้ จับผู้ต้องหาในเครือข่ายนี้ได้ 5 คน เหลือ อีก 1 คน ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน ยึดทรัพย์เบื้องต้นเป็น บ้าน /ที่ดิน/ อาคารพาณิชย์รถยนต์ รวมมูลค่ากว่า 51 ล้านบาท

————————–